4. ใครสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือเราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับใคร
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยให้กับบุคคลที่สามที่มีฐานะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้คำสั่งของเรา โดยการเปิดเผยจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ดังต่อไปนี้
- หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแลตามข้อกำหนดของกฎหมาย
- บริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ กลุ่มบริษัทอลิอันซ์ อยุธยา
- บริษัทที่เป็นคู่สัญญา หรือสถาบันการเงิน ผู้ให้คำปรึกษาด้านเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญ ทนายความ ผู้ตรวจสอบบัญชี เช่น ผู้ให้บริการระบบคลาวด์หรือแอปพลิเคชั่น (Cloud/Application Service Provider) การจัดเก็บเอกสาร การจัดส่งเอกสาร การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
- บริษัทที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการพิจารณาหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร การควบรวม การซื้อหรือขายกิจการ การร่วมทุน การมอบหมายงาน การถ่ายโอน หรือการจัดการอื่นๆ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนของธุรกิจของเรา
5. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการประมวลผลที่ไหน
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจจะถูกประมวลผลทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักรไทยโดยบุคคลหรือนิติบุคคลที่ถูกระบุไว้ในข้อ 4 ข้างต้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางสัญญาที่เกี่ยวกับการรักษาความลับและความปลอดภัย เราจะไม่ทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับผู้ที่ไม่มีสิทธิในการประมวลผลข้อมูล
เมื่อใดก็ตามที่เราส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อทำการประมวลผลนอกราชอาณาจักรไทยหรือไปยังกลุ่มอลิอันซ์ เราจะปฏิบัติตาม “มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลในกลุ่มอลิอันซ์” (BCRs) ซึ่งกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีนี้
ท่านสามารถเข้าถึงเอกสาร BCRs และ เอกสารรายชื่อของบริษัทในกลุ่มอลิอันซ์ที่ปฎิบัติตาม BCRs ได้ที่
www.allianz.com/en/privacy-statement.html#bindingcorporaterules
ในกรณีที่ BCRs ไม่ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด เราจะจัดให้มีมาตรการคุ้มครองที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่โอนไปนอกราชอาณาจักรไทยนั้นจะได้รับการคุ้มครองเหมือนกับการประมวลในราชอาณาจักรไทย เช่น การจัดให้มีข้อสัญญามาตรฐาน (Standard Contractual Clause) เป็นต้น
6. สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีอะไรบ้าง
ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับ ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
- เข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล
- เพิกถอนการให้ความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลภายใต้ความยินยอมของท่าน
- ปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน ถูกต้อง สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
- ลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ หากข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น
- ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านโต้แย้งถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้
- คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึง การประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด (ถ้ามี)
- ขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อตนเองหรือผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
- ยื่นข้อร้องเรียนโดยตรงกับเรา หรือยื่นต่อหน่วยงานรัฐที่ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พบการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านอาจใช้สิทธิเหล่านี้โดยการติดต่อเราตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 13.
ในกรณีที่ท่านขอยกเลิกหรือเพิกถอนความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไม่สามารถระบุตัวตนของท่าน หรือระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถให้บริการได้ หรือเกิดข้อจำกัดในการทำธุรกรรมหรือให้บริการบางประเภท ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ท่านไม่ได้รับสิทธิประโยชน์หรือข้อมูลข่าวสาร หรือไม่ได้รับบริการบางประเภทจากบริษัท
บริษัทอาจจะปฏิเสธที่จะดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ในกรณีที่มีข้อจำกัดสิทธิของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือบริษัทมีความชอบธรรมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะคิดค่าธรรมเนียมสำหรับการดำเนินการตามคำร้องขอของท่านตามที่บริษัทเห็นสมควร
7. เราจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลานานเท่าใด
เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าที่จำเป็นเพื่อประมวลตามวัตถุประสงค์ข้างต้น และจะเก็บรักษาต่อเนื่องต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปีภายหลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามบริษัทอาจยังคงจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวหากบริษัทเห็นว่าบริษัทยังมีความจำเป็นในการจัดเก็บข้อมูลของท่านเพื่อใช้ตามวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลข้างต้น หรือเพื่อความจำเป็นอื่นใดที่บริษัทเห็นสมควร เช่น การบังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของบริษัท เป็นต้น
8. มีการใช้ Cookies บนเว็บไซต์ของบริษัทหรือไม่
บริษัทได้ใช้เทคโนโลยีในการติดตาม เช่น คุกกี้ (Cookies) หรือ Tags เพื่อรวบรวมข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจว่าผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทอย่างไร
เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลที่ช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท เช่น ทำให้เราสามารถตรวจสอบว่ามีการติดต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของท่านและของเราในอดีตหรือไม่ และใช้ในการระบุส่วนที่เป็นที่นิยมที่สุดของเว็บไซต์ของบริษัท
เมื่อท่านได้มีการบันทึกข้อมูลการตั้งค่าคุกกี้แล้ว การตั้งค่าดังกล่าวจะนำไปใช้กับการเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทในอนาคต อย่างไรก็ตาม อาจจะมีเหตุผลทางด้านเทคนิคที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท ซึ่งอาจมีผลต่อการตั้งค่าคุกกี้ของท่าน เช่น การที่ท่านตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านใหม่ การลบคุกกี้ หรือการเข้าใช้เว็บไซต์ของบริษัทจากเบราว์เซอร์หรือเครื่องมืออื่น การตั้งค่าคุกกี้ที่ท่านทำไว้อาจสูญหายได้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ในบางประเทศอาจขอให้ท่านยืนยันการตั้งค่าคุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทเป็นครั้งแรก ถ้าท่านอยู่ในประเทศที่กำหนดให้ถูกตั้งค่าคุกกี้ของท่านโดยอัตโนมัติ ท่านอาจจะได้รับการขอให้ตั้งค่าดังกล่าวอีกครั้งเมื่อมีการเข้าชมเว็บไซต์ในอนาคต
ในหลายๆ กรณี ท่านสามารถควบคุมเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลนี้โดยการใช้เบราว์เซอร์ของท่านเอง กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านได้มีการตั้งค่าตามที่ท่านต้องการว่าให้มีการเตือนหรือยอมรับเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลคุกกี้หรือไม่ ท่านสามารถหาความสามารถเฉพาะของเบราว์เซอร์ของท่านและคำแนะนำในวิธีการใช้งานดังกล่าวได้จากคู่มือหรือไฟล์ช่วยเหลือของเบราว์เซอร์ของท่าน
การปฏิเสธ การจำกัดการใช้งาน หรือการปิดใช้งานเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลคุกกี้ อาจทำให้ประสิทธิภาพของการให้บริการของเว็บไซต์ของบริษัทลดลง หรือบางส่วนของเว็บไซต์ของบริษัทอาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง