เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 – คุณโรวัน ดี อาซี่ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างขององค์กร เพื่อความก้าวหน้าและการขยายตัวในภาคธุรกิจประกันภัยที่กำลังเติบโต

คุณโรวัน กล่าวว่า “ผมมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ปรับโครงสร้างของบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จากเดิมที่ให้บริการด้านธุรกิจประกันภัย โดยได้แปรสภาพธุรกิจเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน หรือ Investment Company และในการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยขยายแนวทางการลงทุน.ให้กว้างขวางมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ด้วย”

“ขั้นตอนสุดท้ายในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการประกอบธุรกิจเข้าสู่การเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนนั้น บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะคืนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ให้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เหมาะสมกับธุรกิจเพื่อการลงทุนว่า บริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) โดยบริษัทฯ ยังคงสถานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใต้ชื่อย่อว่า AYUD คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และธุรกิจด้านประกันภัยยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือในชื่อย่อว่า SAGI” คุณชูศักดิ์ สาลี กรรมการผู้จัดการ กล่าวเสริม

“ลูกค้าของเราจะยังคงได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงจากบริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่ บริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) จากมุมมองของ Economy of Scale และการให้บริการสำหรับลูกค้าทั่วประเทศ” คุณโรวัน กล่าว

การแปรสภาพธุรกิจของ บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มขึ้นในเดือน มีนาคม 2553 หลังจากที่บริษัทฯ ได้ตกลงจะเข้าซื้อหุ้นจำนวน 99.99% ในบริษัท บีที ประกันภัย จำกัด จากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด ณ ราคาอ้างอิงขั้นต้นที่ 392 ล้านบาท การเข้าซื้อกิจการแล้วเสร็จหลังได้รับการอนุมัติในการซื้อหุ้นและแผนการควบรวมธุรกิจจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก บริษัท บีทีประกันภัย จำกัด เป็น บริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) (หรือในชื่อย่อว่า SAGI) และได้เพิ่มทุนเป็น 1,200 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมและรองรับการขยายงานของบริษัทฯ และเพื่อให้สอดคล้องต่อกฏเกณฑ์ของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการดำรงเงินทุนตามระดับความเสี่ยงหรือ Risk-Based Capital (RBC) ภายหลังการโอนถ่ายธุรกิจประกันภัยจาก บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จำกัด (มหาชน) เข้าสู่ บริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เสร็จสมบูรณ์ บริษัทฯ ได้เดินหน้าวางแผนดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทเพื่อการลงทุน ด้วยเงินลงทุน 6,000 ล้านบาท ในภาคธุรกิจประกันภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน